ตัวประกอบของ 35005 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 35005
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 35005 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 35005 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 35005 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 35005 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 35005 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 7001, 35005
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 35005 ÷ 1 | = | 35005 | เหลือเศษ 0 |
| 35005 ÷ 5 | = | 7001 | เหลือเศษ 0 |
| 35005 ÷ 7001 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 35005 ÷ 35005 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 35005
| 1 x 35005 | = | 35005 |
| 5 x 7001 | = | 35005 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 35005
1 + 5 + 7001 + 35005 = 42012
▶ ตัวประกอบของ 35005 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 7001
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 35005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35005 = 5 x 7001
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 35005 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 35005 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 35005 มา 1 คู่ เช่น 5 x 7001
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35005
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35005
- 35005
- 5
- 7001
ดังนั้น 35005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35005 =
5 x 7001
2. การแยกตัวประกอบของ 35005 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 35005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35005 นั้นก็คือ 5, 7001 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35005
5)350057001)70011ดังนั้น 35005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้35005 = 5 x 7001วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 35005
1แยกตัวประกอบของ 35005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 700112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7001 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35005 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 35005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35005 นั้นก็คือ 5, 7001 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35005
5
)35005
7001
)7001
1
ดังนั้น 35005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35005 = 5 x 7001
1แยกตัวประกอบของ 35005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 70011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7001 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35005 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 35005 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇