ตัวประกอบของ 26555 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26555
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26555 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26555 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26555 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26555 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26555 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 47, 113, 235, 565, 5311, 26555
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26555 ÷ 1 | = | 26555 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 5 | = | 5311 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 47 | = | 565 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 113 | = | 235 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 235 | = | 113 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 565 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 5311 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 26555 ÷ 26555 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26555
| 1 x 26555 | = | 26555 |
| 5 x 5311 | = | 26555 |
| 47 x 565 | = | 26555 |
| 113 x 235 | = | 26555 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26555
1 + 5 + 47 + 113 + 235 + 565 + 5311 + 26555 = 32832
▶ ตัวประกอบของ 26555 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 47, 113
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26555 = 5 x 47 x 113
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26555 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26555 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26555 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5311
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26555
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26555 แบบที่หนึ่ง
- 26555
- 113
- 235
- 5
- 47
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26555 แบบที่สอง
- 26555
- 5
- 5311
- 47
- 113
ดังนั้น 26555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26555 =
5 x 47 x 113
2. การแยกตัวประกอบของ 26555 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26555 นั้นก็คือ 5, 47, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26555
5)2655547)5311113)1131ดังนั้น 26555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26555 = 5 x 47 x 113วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26555
1แยกตัวประกอบของ 26555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 471 x 11312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26555 นั้นก็คือ 5, 47, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26555
5
)26555
47
)5311
113
)113
1
ดังนั้น 26555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26555 = 5 x 47 x 113
1แยกตัวประกอบของ 26555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 471 x 1131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26555 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇