ตัวประกอบของ 26514 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26514
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26514 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26514 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26514 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26514 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26514 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 491, 982, 1473, 2946, 4419, 8838, 13257, 26514
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26514 ÷ 1 | = | 26514 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 2 | = | 13257 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 3 | = | 8838 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 6 | = | 4419 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 9 | = | 2946 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 18 | = | 1473 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 27 | = | 982 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 54 | = | 491 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 491 | = | 54 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 982 | = | 27 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 1473 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 2946 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 4419 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 8838 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 13257 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26514 ÷ 26514 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26514
| 1 x 26514 | = | 26514 |
| 2 x 13257 | = | 26514 |
| 3 x 8838 | = | 26514 |
| 6 x 4419 | = | 26514 |
| 9 x 2946 | = | 26514 |
| 18 x 1473 | = | 26514 |
| 27 x 982 | = | 26514 |
| 54 x 491 | = | 26514 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26514
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 491 + 982 + 1473 + 2946 + 4419 + 8838 + 13257 + 26514 = 59040
▶ ตัวประกอบของ 26514 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 491
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26514 = 2 x 3 x 3 x 3 x 491
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26514 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26514 = 2 x 33 x 491
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26514 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26514 = 2 x 33 x 491
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26514 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26514 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26514 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13257
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26514
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26514 แบบที่หนึ่ง
- 26514
- 54
- 6
- 2
- 3
- 9
- 3
- 3
- 6
- 491
- 54
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26514 แบบที่สอง
- 26514
- 2
- 13257
- 3
- 4419
- 3
- 1473
- 3
- 491
ดังนั้น 26514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26514 =
2 x 3 x 3 x 3 x 491
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26514 =
2 x 33 x 491 หรือ 21 x 33 x 4911
2. การแยกตัวประกอบของ 26514 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26514 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26514 นั้นก็คือ 2, 3, 491 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26514
2)265143)132573)44193)1473491)4911ดังนั้น 26514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26514 = 2 x 3 x 3 x 3 x 491หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26514 = 2 x 33 x 491 หรือ 21 x 33 x 4911วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26514
1แยกตัวประกอบของ 26514 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 49112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 491 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26514 มีทั้งหมด 16 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26514 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26514 นั้นก็คือ 2, 3, 491 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26514
2
)26514
3
)13257
3
)4419
3
)1473
491
)491
1
ดังนั้น 26514 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26514 = 2 x 3 x 3 x 3 x 491
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26514 = 2 x 33 x 491 หรือ 21 x 33 x 4911
1แยกตัวประกอบของ 26514 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 4911
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 491 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26514 มีทั้งหมด 16 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26514 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
