ตัวประกอบของ 26477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26477
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26477 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26477 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26477 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26477 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26477 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 29, 83, 319, 913, 2407, 26477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26477 ÷ 1 | = | 26477 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 11 | = | 2407 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 29 | = | 913 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 83 | = | 319 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 319 | = | 83 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 913 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 2407 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 26477 ÷ 26477 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26477
| 1 x 26477 | = | 26477 |
| 11 x 2407 | = | 26477 |
| 29 x 913 | = | 26477 |
| 83 x 319 | = | 26477 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26477
1 + 11 + 29 + 83 + 319 + 913 + 2407 + 26477 = 30240
▶ ตัวประกอบของ 26477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 29, 83
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26477 = 11 x 29 x 83
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26477 มา 1 คู่ เช่น 11 x 2407
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26477 แบบที่หนึ่ง
- 26477
- 83
- 319
- 11
- 29
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26477 แบบที่สอง
- 26477
- 11
- 2407
- 29
- 83
ดังนั้น 26477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26477 =
11 x 29 x 83
2. การแยกตัวประกอบของ 26477 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26477 นั้นก็คือ 11, 29, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26477
11)2647729)240783)831ดังนั้น 26477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26477 = 11 x 29 x 83วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26477
1แยกตัวประกอบของ 26477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 291 x 8312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26477 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26477 นั้นก็คือ 11, 29, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26477
11
)26477
29
)2407
83
)83
1
ดังนั้น 26477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26477 = 11 x 29 x 83
1แยกตัวประกอบของ 26477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 291 x 831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26477 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
