โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26472 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26472

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26472 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26472 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 1103, 2206, 3309, 4412, 6618, 8824, 13236, 26472
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26472 ÷ 1=26472เหลือเศษ 0
26472 ÷ 2=13236เหลือเศษ 0
26472 ÷ 3=8824เหลือเศษ 0
26472 ÷ 4=6618เหลือเศษ 0
26472 ÷ 6=4412เหลือเศษ 0
26472 ÷ 8=3309เหลือเศษ 0
26472 ÷ 12=2206เหลือเศษ 0
26472 ÷ 24=1103เหลือเศษ 0
26472 ÷ 1103=24เหลือเศษ 0
26472 ÷ 2206=12เหลือเศษ 0
26472 ÷ 3309=8เหลือเศษ 0
26472 ÷ 4412=6เหลือเศษ 0
26472 ÷ 6618=4เหลือเศษ 0
26472 ÷ 8824=3เหลือเศษ 0
26472 ÷ 13236=2เหลือเศษ 0
26472 ÷ 26472=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26472
1 x 26472
2 x 13236
3 x 8824
4 x 6618
6 x 4412
8 x 3309
12 x 2206
24 x 1103
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26472
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 1103 + 2206 + 3309 + 4412 + 6618 + 8824 + 13236 + 26472 = 66240
ตัวประกอบของ 26472 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1103
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1103
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26472 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26472 = 23 x 3 x 1103
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26472 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26472 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26472 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13236
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26472
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26472 แบบที่หนึ่ง
  • 26472
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1103

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26472 แบบที่สอง
  • 26472
    • 2
    • 13236
      • 2
      • 6618
        • 2
        • 3309
          • 3
          • 1103
ดังนั้น 26472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26472 = 23 x 3 x 1103 หรือ 23 x 31 x 11031

2. การแยกตัวประกอบของ 26472 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26472 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26472 นั้นก็คือ 2, 3, 1103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26472

2
)26472
2
)13236
2
)6618
3
)3309
1103
)1103
1
ดังนั้น 26472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26472 = 23 x 3 x 1103 หรือ 23 x 31 x 11031

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26472

1แยกตัวประกอบของ 26472 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 11031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26472 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26472 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇