โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26475 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26475

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26475 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26475 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 25, 75, 353, 1059, 1765, 5295, 8825, 26475
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26475 ÷ 1=26475เหลือเศษ 0
26475 ÷ 3=8825เหลือเศษ 0
26475 ÷ 5=5295เหลือเศษ 0
26475 ÷ 15=1765เหลือเศษ 0
26475 ÷ 25=1059เหลือเศษ 0
26475 ÷ 75=353เหลือเศษ 0
26475 ÷ 353=75เหลือเศษ 0
26475 ÷ 1059=25เหลือเศษ 0
26475 ÷ 1765=15เหลือเศษ 0
26475 ÷ 5295=5เหลือเศษ 0
26475 ÷ 8825=3เหลือเศษ 0
26475 ÷ 26475=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26475
1 x 26475
3 x 8825
5 x 5295
15 x 1765
25 x 1059
75 x 353
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26475
1 + 3 + 5 + 15 + 25 + 75 + 353 + 1059 + 1765 + 5295 + 8825 + 26475 = 43896
ตัวประกอบของ 26475 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 353
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26475 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26475 = 3 x 5 x 5 x 353
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26475 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26475 = 3 x 52 x 353
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26475 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26475 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26475 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8825
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26475
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26475 แบบที่หนึ่ง
  • 26475
    • 75
      • 5
      • 15
        • 3
        • 5
    • 353

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26475 แบบที่สอง
  • 26475
    • 3
    • 8825
      • 5
      • 1765
        • 5
        • 353
ดังนั้น 26475 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26475 = 3 x 5 x 5 x 353
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26475 = 3 x 52 x 353 หรือ 31 x 52 x 3531

2. การแยกตัวประกอบของ 26475 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26475 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26475 นั้นก็คือ 3, 5, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26475

3
)26475
5
)8825
5
)1765
353
)353
1
ดังนั้น 26475 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26475 = 3 x 5 x 5 x 353
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26475 = 3 x 52 x 353 หรือ 31 x 52 x 3531

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26475

1แยกตัวประกอบของ 26475 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 52 x 3531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26475 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26475 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇