ตัวประกอบของ 26026 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26026
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26026 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26026 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26026 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26026 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26026 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 7, 11, 13, 14, 22, 26, 77, 91, 143, 154, 169, 182, 286, 338, 1001, 1183, 1859, 2002, 2366, 3718, 13013, 26026
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26026 ÷ 1 | = | 26026 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 2 | = | 13013 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 7 | = | 3718 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 11 | = | 2366 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 13 | = | 2002 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 14 | = | 1859 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 22 | = | 1183 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 26 | = | 1001 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 77 | = | 338 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 91 | = | 286 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 143 | = | 182 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 154 | = | 169 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 169 | = | 154 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 182 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 286 | = | 91 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 338 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 1001 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 1183 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 1859 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 2002 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 2366 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 3718 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 13013 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26026 ÷ 26026 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26026
| 1 x 26026 | = | 26026 |
| 2 x 13013 | = | 26026 |
| 7 x 3718 | = | 26026 |
| 11 x 2366 | = | 26026 |
| 13 x 2002 | = | 26026 |
| 14 x 1859 | = | 26026 |
| 22 x 1183 | = | 26026 |
| 26 x 1001 | = | 26026 |
| 77 x 338 | = | 26026 |
| 91 x 286 | = | 26026 |
| 143 x 182 | = | 26026 |
| 154 x 169 | = | 26026 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26026
1 + 2 + 7 + 11 + 13 + 14 + 22 + 26 + 77 + 91 + 143 + 154 + 169 + 182 + 286 + 338 + 1001 + 1183 + 1859 + 2002 + 2366 + 3718 + 13013 + 26026 = 52704
▶ ตัวประกอบของ 26026 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 11, 13
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26026 = 2 x 7 x 11 x 13 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26026 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26026 = 2 x 7 x 11 x 132
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26026 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26026 = 2 x 7 x 11 x 132
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26026 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26026 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26026 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13013
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26026
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26026 แบบที่หนึ่ง
- 26026
- 154
- 11
- 14
- 2
- 7
- 169
- 13
- 13
- 154
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26026 แบบที่สอง
- 26026
- 2
- 13013
- 7
- 1859
- 11
- 169
- 13
- 13
ดังนั้น 26026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26026 =
2 x 7 x 11 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26026 =
2 x 7 x 11 x 132 หรือ 21 x 71 x 111 x 132
2. การแยกตัวประกอบของ 26026 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26026 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26026 นั้นก็คือ 2, 7, 11, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26026
2)260267)1301311)185913)16913)131ดังนั้น 26026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26026 = 2 x 7 x 11 x 13 x 13หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26026 = 2 x 7 x 11 x 132 หรือ 21 x 71 x 111 x 132วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26026
1แยกตัวประกอบของ 26026 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 111 x 1322ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 3 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26026 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26026 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26026 นั้นก็คือ 2, 7, 11, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26026
2
)26026
7
)13013
11
)1859
13
)169
13
)13
1
ดังนั้น 26026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26026 = 2 x 7 x 11 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26026 = 2 x 7 x 11 x 132 หรือ 21 x 71 x 111 x 132
1แยกตัวประกอบของ 26026 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 111 x 132
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 3 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26026 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26026 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇