โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26015 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26015

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26015 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26015 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 5, 11, 43, 55, 121, 215, 473, 605, 2365, 5203, 26015
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26015 ÷ 1=26015เหลือเศษ 0
26015 ÷ 5=5203เหลือเศษ 0
26015 ÷ 11=2365เหลือเศษ 0
26015 ÷ 43=605เหลือเศษ 0
26015 ÷ 55=473เหลือเศษ 0
26015 ÷ 121=215เหลือเศษ 0
26015 ÷ 215=121เหลือเศษ 0
26015 ÷ 473=55เหลือเศษ 0
26015 ÷ 605=43เหลือเศษ 0
26015 ÷ 2365=11เหลือเศษ 0
26015 ÷ 5203=5เหลือเศษ 0
26015 ÷ 26015=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26015
1 x 26015
5 x 5203
11 x 2365
43 x 605
55 x 473
121 x 215
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26015
1 + 5 + 11 + 43 + 55 + 121 + 215 + 473 + 605 + 2365 + 5203 + 26015 = 35112
ตัวประกอบของ 26015 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 11, 43
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26015 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26015 = 5 x 11 x 11 x 43
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26015 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26015 = 5 x 112 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26015 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26015 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26015 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5203
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26015
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26015 แบบที่หนึ่ง
  • 26015
    • 121
      • 11
      • 11
    • 215
      • 5
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26015 แบบที่สอง
  • 26015
    • 5
    • 5203
      • 11
      • 473
        • 11
        • 43
ดังนั้น 26015 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26015 = 5 x 11 x 11 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26015 = 5 x 112 x 43 หรือ 51 x 112 x 431

2. การแยกตัวประกอบของ 26015 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26015 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26015 นั้นก็คือ 5, 11, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26015

5
)26015
11
)5203
11
)473
43
)43
1
ดังนั้น 26015 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26015 = 5 x 11 x 11 x 43
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26015 = 5 x 112 x 43 หรือ 51 x 112 x 431

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26015

1แยกตัวประกอบของ 26015 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 112 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26015 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26015 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇