ตัวประกอบของ 25682 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25682
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25682 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25682 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25682 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25682 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25682 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 12841, 25682
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25682 ÷ 1 | = | 25682 | เหลือเศษ 0 |
| 25682 ÷ 2 | = | 12841 | เหลือเศษ 0 |
| 25682 ÷ 12841 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 25682 ÷ 25682 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25682
| 1 x 25682 | = | 25682 |
| 2 x 12841 | = | 25682 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25682
1 + 2 + 12841 + 25682 = 38526
▶ ตัวประกอบของ 25682 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 12841
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25682 = 2 x 12841
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25682 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25682 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25682 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12841
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25682
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25682
- 25682
- 2
- 12841
ดังนั้น 25682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25682 =
2 x 12841
2. การแยกตัวประกอบของ 25682 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25682 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25682 นั้นก็คือ 2, 12841 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25682
2)2568212841)128411ดังนั้น 25682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25682 = 2 x 12841วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25682
1แยกตัวประกอบของ 25682 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1284112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 12841 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25682 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25682 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25682 นั้นก็คือ 2, 12841 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25682
2
)25682
12841
)12841
1
ดังนั้น 25682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25682 = 2 x 12841
1แยกตัวประกอบของ 25682 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 128411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 12841 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25682 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25682 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇