ตัวประกอบของ 25686 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25686
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25686 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25686 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25686 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25686 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25686 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 1427, 2854, 4281, 8562, 12843, 25686
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25686 ÷ 1 | = | 25686 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 2 | = | 12843 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 3 | = | 8562 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 6 | = | 4281 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 9 | = | 2854 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 18 | = | 1427 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 1427 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 2854 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 4281 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 8562 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 12843 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 25686 ÷ 25686 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25686
| 1 x 25686 | = | 25686 |
| 2 x 12843 | = | 25686 |
| 3 x 8562 | = | 25686 |
| 6 x 4281 | = | 25686 |
| 9 x 2854 | = | 25686 |
| 18 x 1427 | = | 25686 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25686
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 1427 + 2854 + 4281 + 8562 + 12843 + 25686 = 55692
▶ ตัวประกอบของ 25686 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1427
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25686 = 2 x 3 x 3 x 1427
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25686 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25686 = 2 x 32 x 1427
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25686 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25686 = 2 x 32 x 1427
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25686 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25686 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25686 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12843
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25686
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25686 แบบที่หนึ่ง
- 25686
- 18
- 3
- 6
- 2
- 3
- 1427
- 18
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25686 แบบที่สอง
- 25686
- 2
- 12843
- 3
- 4281
- 3
- 1427
ดังนั้น 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25686 =
2 x 3 x 3 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25686 =
2 x 32 x 1427 หรือ 21 x 32 x 14271
2. การแยกตัวประกอบของ 25686 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25686 นั้นก็คือ 2, 3, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25686
2)256863)128433)42811427)14271ดังนั้น 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25686 = 2 x 3 x 3 x 1427หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25686 = 2 x 32 x 1427 หรือ 21 x 32 x 14271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25686
1แยกตัวประกอบของ 25686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 142712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25686 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25686 นั้นก็คือ 2, 3, 1427 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25686
2
)25686
3
)12843
3
)4281
1427
)1427
1
ดังนั้น 25686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25686 = 2 x 3 x 3 x 1427
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25686 = 2 x 32 x 1427 หรือ 21 x 32 x 14271
1แยกตัวประกอบของ 25686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 14271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1427 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25686 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25686 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
