ตัวประกอบของ 25555 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25555
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25555 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25555 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25555 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25555 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25555 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 19, 95, 269, 1345, 5111, 25555
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25555 ÷ 1 | = | 25555 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 5 | = | 5111 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 19 | = | 1345 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 95 | = | 269 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 269 | = | 95 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 1345 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 5111 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
25555 ÷ 25555 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25555
1 x 25555 | = | 25555 |
5 x 5111 | = | 25555 |
19 x 1345 | = | 25555 |
95 x 269 | = | 25555 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25555
1 + 5 + 19 + 95 + 269 + 1345 + 5111 + 25555 = 32400
▶ ตัวประกอบของ 25555 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 19, 269
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25555 = 5 x 19 x 269
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25555 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25555 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25555 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5111
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25555
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25555 แบบที่หนึ่ง
- 25555
- 95
- 5
- 19
- 269
- 95
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25555 แบบที่สอง
- 25555
- 5
- 5111
- 19
- 269
ดังนั้น 25555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25555 =
5 x 19 x 269
2. การแยกตัวประกอบของ 25555 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25555 นั้นก็คือ 5, 19, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25555
5)2555519)5111269)2691ดังนั้น 25555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25555 = 5 x 19 x 269วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25555
1แยกตัวประกอบของ 25555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 191 x 26912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25555 นั้นก็คือ 5, 19, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25555
5
)25555
19
)5111
269
)269
1
ดังนั้น 25555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25555 = 5 x 19 x 269
1แยกตัวประกอบของ 25555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 191 x 2691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25555 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇