ตัวประกอบของ 25546 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25546
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25546 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25546 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25546 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25546 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25546 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 53, 106, 241, 482, 12773, 25546
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25546 ÷ 1 | = | 25546 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 2 | = | 12773 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 53 | = | 482 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 106 | = | 241 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 241 | = | 106 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 482 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 12773 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25546 ÷ 25546 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25546
1 x 25546 | = | 25546 |
2 x 12773 | = | 25546 |
53 x 482 | = | 25546 |
106 x 241 | = | 25546 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25546
1 + 2 + 53 + 106 + 241 + 482 + 12773 + 25546 = 39204
▶ ตัวประกอบของ 25546 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 53, 241
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25546 = 2 x 53 x 241
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25546 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25546 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25546 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12773
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25546
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25546 แบบที่หนึ่ง
- 25546
- 106
- 2
- 53
- 241
- 106
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25546 แบบที่สอง
- 25546
- 2
- 12773
- 53
- 241
ดังนั้น 25546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25546 =
2 x 53 x 241
2. การแยกตัวประกอบของ 25546 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25546 นั้นก็คือ 2, 53, 241 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25546
2)2554653)12773241)2411ดังนั้น 25546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25546 = 2 x 53 x 241วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25546
1แยกตัวประกอบของ 25546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 24112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 241 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25546 นั้นก็คือ 2, 53, 241 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25546
2
)25546
53
)12773
241
)241
1
ดังนั้น 25546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25546 = 2 x 53 x 241
1แยกตัวประกอบของ 25546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 2411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 241 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25546 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇