ตัวประกอบของ 25563 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25563
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25563 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25563 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25563 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25563 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25563 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 8521, 25563
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25563 ÷ 1 | = | 25563 | เหลือเศษ 0 |
25563 ÷ 3 | = | 8521 | เหลือเศษ 0 |
25563 ÷ 8521 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25563 ÷ 25563 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25563
1 x 25563 | = | 25563 |
3 x 8521 | = | 25563 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25563
1 + 3 + 8521 + 25563 = 34088
▶ ตัวประกอบของ 25563 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 8521
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25563 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25563 = 3 x 8521
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25563 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25563 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25563 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8521
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25563
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25563
- 25563
- 3
- 8521
ดังนั้น 25563 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25563 =
3 x 8521
2. การแยกตัวประกอบของ 25563 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25563 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25563 นั้นก็คือ 3, 8521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25563
3)255638521)85211ดังนั้น 25563 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25563 = 3 x 8521วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25563
1แยกตัวประกอบของ 25563 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 852112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25563 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25563 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25563 นั้นก็คือ 3, 8521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25563
3
)25563
8521
)8521
1
ดังนั้น 25563 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25563 = 3 x 8521
1แยกตัวประกอบของ 25563 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 85211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25563 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25563 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇