ตัวประกอบของ 25558 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25558
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25558 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25558 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25558 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25558 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25558 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 983, 1966, 12779, 25558
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25558 ÷ 1 | = | 25558 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 2 | = | 12779 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 13 | = | 1966 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 26 | = | 983 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 983 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 1966 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 12779 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25558 ÷ 25558 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25558
1 x 25558 | = | 25558 |
2 x 12779 | = | 25558 |
13 x 1966 | = | 25558 |
26 x 983 | = | 25558 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25558
1 + 2 + 13 + 26 + 983 + 1966 + 12779 + 25558 = 41328
▶ ตัวประกอบของ 25558 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 983
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25558 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25558 = 2 x 13 x 983
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25558 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25558 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25558 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12779
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25558
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25558 แบบที่หนึ่ง
- 25558
- 26
- 2
- 13
- 983
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25558 แบบที่สอง
- 25558
- 2
- 12779
- 13
- 983
ดังนั้น 25558 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25558 =
2 x 13 x 983
2. การแยกตัวประกอบของ 25558 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25558 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25558 นั้นก็คือ 2, 13, 983 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25558
2)2555813)12779983)9831ดังนั้น 25558 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25558 = 2 x 13 x 983วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25558
1แยกตัวประกอบของ 25558 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 98312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 983 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25558 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25558 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25558 นั้นก็คือ 2, 13, 983 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25558
2
)25558
13
)12779
983
)983
1
ดังนั้น 25558 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25558 = 2 x 13 x 983
1แยกตัวประกอบของ 25558 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 9831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 983 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25558 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25558 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇