ตัวประกอบของ 25050 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25050
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25050 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25050 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25050 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25050 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25050 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 15, 25, 30, 50, 75, 150, 167, 334, 501, 835, 1002, 1670, 2505, 4175, 5010, 8350, 12525, 25050
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25050 ÷ 1 | = | 25050 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 2 | = | 12525 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 3 | = | 8350 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 5 | = | 5010 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 6 | = | 4175 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 10 | = | 2505 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 15 | = | 1670 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 25 | = | 1002 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 30 | = | 835 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 50 | = | 501 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 75 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 150 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 167 | = | 150 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 334 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 501 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 835 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 1002 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 1670 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 2505 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 4175 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 5010 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 8350 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 12525 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 25050 ÷ 25050 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25050
| 1 x 25050 | = | 25050 |
| 2 x 12525 | = | 25050 |
| 3 x 8350 | = | 25050 |
| 5 x 5010 | = | 25050 |
| 6 x 4175 | = | 25050 |
| 10 x 2505 | = | 25050 |
| 15 x 1670 | = | 25050 |
| 25 x 1002 | = | 25050 |
| 30 x 835 | = | 25050 |
| 50 x 501 | = | 25050 |
| 75 x 334 | = | 25050 |
| 150 x 167 | = | 25050 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25050
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 10 + 15 + 25 + 30 + 50 + 75 + 150 + 167 + 334 + 501 + 835 + 1002 + 1670 + 2505 + 4175 + 5010 + 8350 + 12525 + 25050 = 62496
▶ ตัวประกอบของ 25050 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25050 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25050 = 2 x 3 x 5 x 5 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25050 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25050 = 2 x 3 x 52 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25050 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25050 = 2 x 3 x 52 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25050 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25050 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25050 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12525
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25050
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25050 แบบที่หนึ่ง
- 25050
- 150
- 10
- 2
- 5
- 15
- 3
- 5
- 10
- 167
- 150
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25050 แบบที่สอง
- 25050
- 2
- 12525
- 3
- 4175
- 5
- 835
- 5
- 167
ดังนั้น 25050 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25050 =
2 x 3 x 5 x 5 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25050 =
2 x 3 x 52 x 167 หรือ 21 x 31 x 52 x 1671
2. การแยกตัวประกอบของ 25050 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25050 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25050 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25050
2)250503)125255)41755)835167)1671ดังนั้น 25050 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25050 = 2 x 3 x 5 x 5 x 167หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25050 = 2 x 3 x 52 x 167 หรือ 21 x 31 x 52 x 1671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25050
1แยกตัวประกอบของ 25050 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 52 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25050 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25050 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25050 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25050
2
)25050
3
)12525
5
)4175
5
)835
167
)167
1
ดังนั้น 25050 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25050 = 2 x 3 x 5 x 5 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25050 = 2 x 3 x 52 x 167 หรือ 21 x 31 x 52 x 1671
1แยกตัวประกอบของ 25050 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 52 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 3 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25050 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25050 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇