ตัวประกอบของ 25035 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25035
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25035 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25035 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25035 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25035 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25035 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 1669, 5007, 8345, 25035
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25035 ÷ 1 | = | 25035 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 3 | = | 8345 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 5 | = | 5007 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 15 | = | 1669 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 1669 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 5007 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 8345 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25035 ÷ 25035 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25035
1 x 25035 | = | 25035 |
3 x 8345 | = | 25035 |
5 x 5007 | = | 25035 |
15 x 1669 | = | 25035 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25035
1 + 3 + 5 + 15 + 1669 + 5007 + 8345 + 25035 = 40080
▶ ตัวประกอบของ 25035 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 1669
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25035 = 3 x 5 x 1669
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25035 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25035 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25035 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8345
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25035
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25035 แบบที่หนึ่ง
- 25035
- 15
- 3
- 5
- 1669
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25035 แบบที่สอง
- 25035
- 3
- 8345
- 5
- 1669
ดังนั้น 25035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25035 =
3 x 5 x 1669
2. การแยกตัวประกอบของ 25035 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25035 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25035 นั้นก็คือ 3, 5, 1669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25035
3)250355)83451669)16691ดังนั้น 25035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25035 = 3 x 5 x 1669วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25035
1แยกตัวประกอบของ 25035 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 166912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25035 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25035 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25035 นั้นก็คือ 3, 5, 1669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25035
3
)25035
5
)8345
1669
)1669
1
ดังนั้น 25035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25035 = 3 x 5 x 1669
1แยกตัวประกอบของ 25035 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 16691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25035 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25035 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇