โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 23576 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23576

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 23576 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 23576 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 421, 842, 1684, 2947, 3368, 5894, 11788, 23576
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23576 ÷ 1=23576เหลือเศษ 0
23576 ÷ 2=11788เหลือเศษ 0
23576 ÷ 4=5894เหลือเศษ 0
23576 ÷ 7=3368เหลือเศษ 0
23576 ÷ 8=2947เหลือเศษ 0
23576 ÷ 14=1684เหลือเศษ 0
23576 ÷ 28=842เหลือเศษ 0
23576 ÷ 56=421เหลือเศษ 0
23576 ÷ 421=56เหลือเศษ 0
23576 ÷ 842=28เหลือเศษ 0
23576 ÷ 1684=14เหลือเศษ 0
23576 ÷ 2947=8เหลือเศษ 0
23576 ÷ 3368=7เหลือเศษ 0
23576 ÷ 5894=4เหลือเศษ 0
23576 ÷ 11788=2เหลือเศษ 0
23576 ÷ 23576=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23576
1 x 23576
2 x 11788
4 x 5894
7 x 3368
8 x 2947
14 x 1684
28 x 842
56 x 421
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23576
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 421 + 842 + 1684 + 2947 + 3368 + 5894 + 11788 + 23576 = 50640
ตัวประกอบของ 23576 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 421
การแยกตัวประกอบคืออะไร

23576 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

23576 = 2 x 2 x 2 x 7 x 421
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23576 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23576 = 23 x 7 x 421
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 23576 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23576 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23576 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11788
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23576
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23576 แบบที่หนึ่ง
  • 23576
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 421

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23576 แบบที่สอง
  • 23576
    • 2
    • 11788
      • 2
      • 5894
        • 2
        • 2947
          • 7
          • 421
ดังนั้น 23576 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23576 = 2 x 2 x 2 x 7 x 421
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23576 = 23 x 7 x 421 หรือ 23 x 71 x 4211

2. การแยกตัวประกอบของ 23576 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 23576 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23576 นั้นก็คือ 2, 7, 421 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23576

2
)23576
2
)11788
2
)5894
7
)2947
421
)421
1
ดังนั้น 23576 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23576 = 2 x 2 x 2 x 7 x 421
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23576 = 23 x 7 x 421 หรือ 23 x 71 x 4211

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23576

1แยกตัวประกอบของ 23576 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 4211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 421 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23576 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23576 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇