ตัวประกอบของ 12167 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 12167
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 12167 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 12167 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 12167 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 12167 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 12167 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 23, 529, 12167
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 12167 ÷ 1 | = | 12167 | เหลือเศษ 0 |
| 12167 ÷ 23 | = | 529 | เหลือเศษ 0 |
| 12167 ÷ 529 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 12167 ÷ 12167 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 12167
| 1 x 12167 | = | 12167 |
| 23 x 529 | = | 12167 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 12167
1 + 23 + 529 + 12167 = 12720
▶ ตัวประกอบของ 12167 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 1 ตัวดังนี้
23
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 12167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
12167 = 23 x 23 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 12167 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
12167 = 233
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 12167 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
12167 = 233
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 12167 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 12167 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 12167 มา 1 คู่ เช่น 23 x 529
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 12167
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 12167
- 12167
- 23
- 529
- 23
- 23
ดังนั้น 12167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
12167 =
23 x 23 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
12167 =
233
2. การแยกตัวประกอบของ 12167 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 12167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 12167 นั้นก็คือ 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 12167
23)1216723)52923)231ดังนั้น 12167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้12167 = 23 x 23 x 23หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง12167 = 233วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 12167
1แยกตัวประกอบของ 12167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 2332ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 4 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 12167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 12167 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 12167 นั้นก็คือ 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 12167
23
)12167
23
)529
23
)23
1
ดังนั้น 12167 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
12167 = 23 x 23 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
12167 = 233
1แยกตัวประกอบของ 12167 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 233
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 4 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 12167 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 12167 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
