ตัวประกอบของ 11260 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11260
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11260 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11260 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 11260 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11260 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11260 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 563, 1126, 2252, 2815, 5630, 11260
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11260 ÷ 1 | = | 11260 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 2 | = | 5630 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 4 | = | 2815 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 5 | = | 2252 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 10 | = | 1126 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 20 | = | 563 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 563 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 1126 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 2252 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 2815 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 5630 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 11260 ÷ 11260 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11260
| 1 x 11260 | = | 11260 |
| 2 x 5630 | = | 11260 |
| 4 x 2815 | = | 11260 |
| 5 x 2252 | = | 11260 |
| 10 x 1126 | = | 11260 |
| 20 x 563 | = | 11260 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11260
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 563 + 1126 + 2252 + 2815 + 5630 + 11260 = 23688
▶ ตัวประกอบของ 11260 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 563
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11260 = 2 x 2 x 5 x 563
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11260 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11260 = 22 x 5 x 563
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11260 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11260 = 22 x 5 x 563
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11260 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11260 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11260 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5630
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11260
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11260 แบบที่หนึ่ง
- 11260
- 20
- 4
- 2
- 2
- 5
- 4
- 563
- 20
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11260 แบบที่สอง
- 11260
- 2
- 5630
- 2
- 2815
- 5
- 563
ดังนั้น 11260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11260 =
2 x 2 x 5 x 563
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11260 =
22 x 5 x 563 หรือ 22 x 51 x 5631
2. การแยกตัวประกอบของ 11260 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11260 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11260 นั้นก็คือ 2, 5, 563 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11260
2)112602)56305)2815563)5631ดังนั้น 11260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11260 = 2 x 2 x 5 x 563หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง11260 = 22 x 5 x 563 หรือ 22 x 51 x 5631วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11260
1แยกตัวประกอบของ 11260 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 56312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 563 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11260 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11260 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11260 นั้นก็คือ 2, 5, 563 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11260
2
)11260
2
)5630
5
)2815
563
)563
1
ดังนั้น 11260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11260 = 2 x 2 x 5 x 563
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11260 = 22 x 5 x 563 หรือ 22 x 51 x 5631
1แยกตัวประกอบของ 11260 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 5631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 563 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11260 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11260 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇