โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 96632 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96632

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 96632 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 96632 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 47, 94, 188, 257, 376, 514, 1028, 2056, 12079, 24158, 48316, 96632
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
96632 ÷ 1=96632เหลือเศษ 0
96632 ÷ 2=48316เหลือเศษ 0
96632 ÷ 4=24158เหลือเศษ 0
96632 ÷ 8=12079เหลือเศษ 0
96632 ÷ 47=2056เหลือเศษ 0
96632 ÷ 94=1028เหลือเศษ 0
96632 ÷ 188=514เหลือเศษ 0
96632 ÷ 257=376เหลือเศษ 0
96632 ÷ 376=257เหลือเศษ 0
96632 ÷ 514=188เหลือเศษ 0
96632 ÷ 1028=94เหลือเศษ 0
96632 ÷ 2056=47เหลือเศษ 0
96632 ÷ 12079=8เหลือเศษ 0
96632 ÷ 24158=4เหลือเศษ 0
96632 ÷ 48316=2เหลือเศษ 0
96632 ÷ 96632=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96632
1 x 96632
2 x 48316
4 x 24158
8 x 12079
47 x 2056
94 x 1028
188 x 514
257 x 376
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96632
1 + 2 + 4 + 8 + 47 + 94 + 188 + 257 + 376 + 514 + 1028 + 2056 + 12079 + 24158 + 48316 + 96632 = 185760
ตัวประกอบของ 96632 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 257
การแยกตัวประกอบคืออะไร

96632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

96632 = 2 x 2 x 2 x 47 x 257
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 96632 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
96632 = 23 x 47 x 257
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 96632 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96632 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96632 มา 1 คู่ เช่น 2 x 48316
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96632
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96632 แบบที่หนึ่ง
  • 96632
    • 257
    • 376
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 47

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96632 แบบที่สอง
  • 96632
    • 2
    • 48316
      • 2
      • 24158
        • 2
        • 12079
          • 47
          • 257
ดังนั้น 96632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96632 = 2 x 2 x 2 x 47 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96632 = 23 x 47 x 257 หรือ 23 x 471 x 2571

2. การแยกตัวประกอบของ 96632 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 96632 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96632 นั้นก็คือ 2, 47, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96632

2
)96632
2
)48316
2
)24158
47
)12079
257
)257
1
ดังนั้น 96632 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96632 = 2 x 2 x 2 x 47 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96632 = 23 x 47 x 257 หรือ 23 x 471 x 2571

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96632

1แยกตัวประกอบของ 96632 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 471 x 2571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96632 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96632 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇