โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 95830 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95830

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 95830 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 95830 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 5, 7, 10, 14, 35, 37, 70, 74, 185, 259, 370, 518, 1295, 1369, 2590, 2738, 6845, 9583, 13690, 19166, 47915, 95830
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
95830 ÷ 1=95830เหลือเศษ 0
95830 ÷ 2=47915เหลือเศษ 0
95830 ÷ 5=19166เหลือเศษ 0
95830 ÷ 7=13690เหลือเศษ 0
95830 ÷ 10=9583เหลือเศษ 0
95830 ÷ 14=6845เหลือเศษ 0
95830 ÷ 35=2738เหลือเศษ 0
95830 ÷ 37=2590เหลือเศษ 0
95830 ÷ 70=1369เหลือเศษ 0
95830 ÷ 74=1295เหลือเศษ 0
95830 ÷ 185=518เหลือเศษ 0
95830 ÷ 259=370เหลือเศษ 0
95830 ÷ 370=259เหลือเศษ 0
95830 ÷ 518=185เหลือเศษ 0
95830 ÷ 1295=74เหลือเศษ 0
95830 ÷ 1369=70เหลือเศษ 0
95830 ÷ 2590=37เหลือเศษ 0
95830 ÷ 2738=35เหลือเศษ 0
95830 ÷ 6845=14เหลือเศษ 0
95830 ÷ 9583=10เหลือเศษ 0
95830 ÷ 13690=7เหลือเศษ 0
95830 ÷ 19166=5เหลือเศษ 0
95830 ÷ 47915=2เหลือเศษ 0
95830 ÷ 95830=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95830
1 x 95830
2 x 47915
5 x 19166
7 x 13690
10 x 9583
14 x 6845
35 x 2738
37 x 2590
70 x 1369
74 x 1295
185 x 518
259 x 370
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95830
1 + 2 + 5 + 7 + 10 + 14 + 35 + 37 + 70 + 74 + 185 + 259 + 370 + 518 + 1295 + 1369 + 2590 + 2738 + 6845 + 9583 + 13690 + 19166 + 47915 + 95830 = 202608
ตัวประกอบของ 95830 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 7, 37
การแยกตัวประกอบคืออะไร

95830 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

95830 = 2 x 5 x 7 x 37 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 95830 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
95830 = 2 x 5 x 7 x 372
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 95830 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95830 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95830 มา 1 คู่ เช่น 2 x 47915
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95830
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95830 แบบที่หนึ่ง
  • 95830
    • 259
      • 7
      • 37
    • 370
      • 10
        • 2
        • 5
      • 37

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95830 แบบที่สอง
  • 95830
    • 2
    • 47915
      • 5
      • 9583
        • 7
        • 1369
          • 37
          • 37
ดังนั้น 95830 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95830 = 2 x 5 x 7 x 37 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
95830 = 2 x 5 x 7 x 372 หรือ 21 x 51 x 71 x 372

2. การแยกตัวประกอบของ 95830 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 95830 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95830 นั้นก็คือ 2, 5, 7, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95830

2
)95830
5
)47915
7
)9583
37
)1369
37
)37
1
ดังนั้น 95830 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95830 = 2 x 5 x 7 x 37 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
95830 = 2 x 5 x 7 x 372 หรือ 21 x 51 x 71 x 372

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95830

1แยกตัวประกอบของ 95830 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 71 x 372
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 3 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95830 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95830 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇