โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 9546 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9546

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 9546 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 9546 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 37, 43, 74, 86, 111, 129, 222, 258, 1591, 3182, 4773, 9546
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9546 ÷ 1=9546เหลือเศษ 0
9546 ÷ 2=4773เหลือเศษ 0
9546 ÷ 3=3182เหลือเศษ 0
9546 ÷ 6=1591เหลือเศษ 0
9546 ÷ 37=258เหลือเศษ 0
9546 ÷ 43=222เหลือเศษ 0
9546 ÷ 74=129เหลือเศษ 0
9546 ÷ 86=111เหลือเศษ 0
9546 ÷ 111=86เหลือเศษ 0
9546 ÷ 129=74เหลือเศษ 0
9546 ÷ 222=43เหลือเศษ 0
9546 ÷ 258=37เหลือเศษ 0
9546 ÷ 1591=6เหลือเศษ 0
9546 ÷ 3182=3เหลือเศษ 0
9546 ÷ 4773=2เหลือเศษ 0
9546 ÷ 9546=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9546
1 x 9546
2 x 4773
3 x 3182
6 x 1591
37 x 258
43 x 222
74 x 129
86 x 111
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9546
1 + 2 + 3 + 6 + 37 + 43 + 74 + 86 + 111 + 129 + 222 + 258 + 1591 + 3182 + 4773 + 9546 = 20064
ตัวประกอบของ 9546 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 37, 43
การแยกตัวประกอบคืออะไร

9546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

9546 = 2 x 3 x 37 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 9546 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9546 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9546 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4773
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9546
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9546 แบบที่หนึ่ง
  • 9546
    • 86
      • 2
      • 43
    • 111
      • 3
      • 37

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9546 แบบที่สอง
  • 9546
    • 2
    • 4773
      • 3
      • 1591
        • 37
        • 43
ดังนั้น 9546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9546 = 2 x 3 x 37 x 43

2. การแยกตัวประกอบของ 9546 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 9546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9546 นั้นก็คือ 2, 3, 37, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9546

2
)9546
3
)4773
37
)1591
43
)43
1
ดังนั้น 9546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9546 = 2 x 3 x 37 x 43

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9546

1แยกตัวประกอบของ 9546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 371 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9546 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9546 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇