ตัวประกอบของ 9542 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9542
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9542 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9542 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9542 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9542 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9542 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 367, 734, 4771, 9542
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9542 ÷ 1 | = | 9542 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 2 | = | 4771 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 13 | = | 734 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 26 | = | 367 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 367 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 734 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 4771 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9542 ÷ 9542 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9542
1 x 9542 | = | 9542 |
2 x 4771 | = | 9542 |
13 x 734 | = | 9542 |
26 x 367 | = | 9542 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9542
1 + 2 + 13 + 26 + 367 + 734 + 4771 + 9542 = 15456
▶ ตัวประกอบของ 9542 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 367
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9542 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9542 = 2 x 13 x 367
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9542 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9542 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9542 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4771
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9542
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9542 แบบที่หนึ่ง
- 9542
- 26
- 2
- 13
- 367
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9542 แบบที่สอง
- 9542
- 2
- 4771
- 13
- 367
ดังนั้น 9542 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9542 =
2 x 13 x 367
2. การแยกตัวประกอบของ 9542 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9542 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9542 นั้นก็คือ 2, 13, 367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9542
2)954213)4771367)3671ดังนั้น 9542 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9542 = 2 x 13 x 367วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9542
1แยกตัวประกอบของ 9542 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 36712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9542 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9542 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9542 นั้นก็คือ 2, 13, 367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9542
2
)9542
13
)4771
367
)367
1
ดังนั้น 9542 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9542 = 2 x 13 x 367
1แยกตัวประกอบของ 9542 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 3671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9542 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9542 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇