ตัวประกอบของ 8853 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8853
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8853 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8853 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8853 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8853 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8853 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 227, 681, 2951, 8853
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8853 ÷ 1 | = | 8853 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 3 | = | 2951 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 13 | = | 681 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 39 | = | 227 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 227 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 681 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 2951 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
8853 ÷ 8853 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8853
1 x 8853 | = | 8853 |
3 x 2951 | = | 8853 |
13 x 681 | = | 8853 |
39 x 227 | = | 8853 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8853
1 + 3 + 13 + 39 + 227 + 681 + 2951 + 8853 = 12768
▶ ตัวประกอบของ 8853 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 227
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8853 = 3 x 13 x 227
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8853 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8853 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8853 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2951
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8853
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8853 แบบที่หนึ่ง
- 8853
- 39
- 3
- 13
- 227
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8853 แบบที่สอง
- 8853
- 3
- 2951
- 13
- 227
ดังนั้น 8853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8853 =
3 x 13 x 227
2. การแยกตัวประกอบของ 8853 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8853 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8853 นั้นก็คือ 3, 13, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8853
3)885313)2951227)2271ดังนั้น 8853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8853 = 3 x 13 x 227วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8853
1แยกตัวประกอบของ 8853 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 22712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8853 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8853 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8853 นั้นก็คือ 3, 13, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8853
3
)8853
13
)2951
227
)227
1
ดังนั้น 8853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8853 = 3 x 13 x 227
1แยกตัวประกอบของ 8853 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 2271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8853 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8853 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇