ตัวประกอบของ 8574 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8574
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8574 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8574 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8574 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8574 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8574 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1429, 2858, 4287, 8574
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8574 ÷ 1 | = | 8574 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 2 | = | 4287 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 3 | = | 2858 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 6 | = | 1429 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 1429 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 2858 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 4287 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8574 ÷ 8574 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8574
1 x 8574 | = | 8574 |
2 x 4287 | = | 8574 |
3 x 2858 | = | 8574 |
6 x 1429 | = | 8574 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8574
1 + 2 + 3 + 6 + 1429 + 2858 + 4287 + 8574 = 17160
▶ ตัวประกอบของ 8574 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1429
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8574 = 2 x 3 x 1429
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8574 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8574 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8574 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4287
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8574
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8574 แบบที่หนึ่ง
- 8574
- 6
- 2
- 3
- 1429
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8574 แบบที่สอง
- 8574
- 2
- 4287
- 3
- 1429
ดังนั้น 8574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8574 =
2 x 3 x 1429
2. การแยกตัวประกอบของ 8574 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8574 นั้นก็คือ 2, 3, 1429 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8574
2)85743)42871429)14291ดังนั้น 8574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8574 = 2 x 3 x 1429วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8574
1แยกตัวประกอบของ 8574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 142912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1429 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8574 นั้นก็คือ 2, 3, 1429 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8574
2
)8574
3
)4287
1429
)1429
1
ดังนั้น 8574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8574 = 2 x 3 x 1429
1แยกตัวประกอบของ 8574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 14291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1429 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8574 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇