ตัวประกอบของ 8242 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8242
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8242 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8242 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8242 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8242 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8242 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 317, 634, 4121, 8242
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8242 ÷ 1 | = | 8242 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 2 | = | 4121 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 13 | = | 634 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 26 | = | 317 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 317 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 634 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 4121 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8242 ÷ 8242 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8242
1 x 8242 | = | 8242 |
2 x 4121 | = | 8242 |
13 x 634 | = | 8242 |
26 x 317 | = | 8242 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8242
1 + 2 + 13 + 26 + 317 + 634 + 4121 + 8242 = 13356
▶ ตัวประกอบของ 8242 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 317
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8242 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8242 = 2 x 13 x 317
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8242 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8242 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8242 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4121
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8242
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8242 แบบที่หนึ่ง
- 8242
- 26
- 2
- 13
- 317
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8242 แบบที่สอง
- 8242
- 2
- 4121
- 13
- 317
ดังนั้น 8242 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8242 =
2 x 13 x 317
2. การแยกตัวประกอบของ 8242 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8242 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8242 นั้นก็คือ 2, 13, 317 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8242
2)824213)4121317)3171ดังนั้น 8242 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8242 = 2 x 13 x 317วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8242
1แยกตัวประกอบของ 8242 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 31712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 317 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8242 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8242 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8242 นั้นก็คือ 2, 13, 317 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8242
2
)8242
13
)4121
317
)317
1
ดังนั้น 8242 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8242 = 2 x 13 x 317
1แยกตัวประกอบของ 8242 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 3171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 317 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8242 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8242 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇