ตัวประกอบของ 6862 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6862
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6862 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6862 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6862 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6862 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6862 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 47, 73, 94, 146, 3431, 6862
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6862 ÷ 1 | = | 6862 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 2 | = | 3431 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 47 | = | 146 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 73 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 94 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 146 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 3431 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6862 ÷ 6862 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6862
1 x 6862 | = | 6862 |
2 x 3431 | = | 6862 |
47 x 146 | = | 6862 |
73 x 94 | = | 6862 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6862
1 + 2 + 47 + 73 + 94 + 146 + 3431 + 6862 = 10656
▶ ตัวประกอบของ 6862 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 73
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6862 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6862 = 2 x 47 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6862 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6862 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6862 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3431
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6862
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6862 แบบที่หนึ่ง
- 6862
- 73
- 94
- 2
- 47
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6862 แบบที่สอง
- 6862
- 2
- 3431
- 47
- 73
ดังนั้น 6862 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6862 =
2 x 47 x 73
2. การแยกตัวประกอบของ 6862 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6862 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6862 นั้นก็คือ 2, 47, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6862
2)686247)343173)731ดังนั้น 6862 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6862 = 2 x 47 x 73วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6862
1แยกตัวประกอบของ 6862 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 7312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6862 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6862 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6862 นั้นก็คือ 2, 47, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6862
2
)6862
47
)3431
73
)73
1
ดังนั้น 6862 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6862 = 2 x 47 x 73
1แยกตัวประกอบของ 6862 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6862 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6862 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇