ตัวประกอบของ 6853 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6853
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6853 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6853 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6853 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6853 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6853 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 11, 77, 89, 623, 979, 6853
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6853 ÷ 1 | = | 6853 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 7 | = | 979 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 11 | = | 623 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 77 | = | 89 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 89 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 623 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 979 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
6853 ÷ 6853 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6853
1 x 6853 | = | 6853 |
7 x 979 | = | 6853 |
11 x 623 | = | 6853 |
77 x 89 | = | 6853 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6853
1 + 7 + 11 + 77 + 89 + 623 + 979 + 6853 = 8640
▶ ตัวประกอบของ 6853 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 11, 89
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6853 = 7 x 11 x 89
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6853 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6853 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6853 มา 1 คู่ เช่น 7 x 979
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6853
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6853 แบบที่หนึ่ง
- 6853
- 77
- 7
- 11
- 89
- 77
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6853 แบบที่สอง
- 6853
- 7
- 979
- 11
- 89
ดังนั้น 6853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6853 =
7 x 11 x 89
2. การแยกตัวประกอบของ 6853 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6853 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6853 นั้นก็คือ 7, 11, 89 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6853
7)685311)97989)891ดังนั้น 6853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6853 = 7 x 11 x 89วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6853
1แยกตัวประกอบของ 6853 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 8912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6853 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6853 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6853 นั้นก็คือ 7, 11, 89 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6853
7
)6853
11
)979
89
)89
1
ดังนั้น 6853 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6853 = 7 x 11 x 89
1แยกตัวประกอบของ 6853 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6853 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6853 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇