โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6656 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6656

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6656 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6656 มีทั้งหมด 20 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 13, 16, 26, 32, 52, 64, 104, 128, 208, 256, 416, 512, 832, 1664, 3328, 6656
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6656 ÷ 1=6656เหลือเศษ 0
6656 ÷ 2=3328เหลือเศษ 0
6656 ÷ 4=1664เหลือเศษ 0
6656 ÷ 8=832เหลือเศษ 0
6656 ÷ 13=512เหลือเศษ 0
6656 ÷ 16=416เหลือเศษ 0
6656 ÷ 26=256เหลือเศษ 0
6656 ÷ 32=208เหลือเศษ 0
6656 ÷ 52=128เหลือเศษ 0
6656 ÷ 64=104เหลือเศษ 0
6656 ÷ 104=64เหลือเศษ 0
6656 ÷ 128=52เหลือเศษ 0
6656 ÷ 208=32เหลือเศษ 0
6656 ÷ 256=26เหลือเศษ 0
6656 ÷ 416=16เหลือเศษ 0
6656 ÷ 512=13เหลือเศษ 0
6656 ÷ 832=8เหลือเศษ 0
6656 ÷ 1664=4เหลือเศษ 0
6656 ÷ 3328=2เหลือเศษ 0
6656 ÷ 6656=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6656
1 x 6656
2 x 3328
4 x 1664
8 x 832
13 x 512
16 x 416
26 x 256
32 x 208
52 x 128
64 x 104
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6656
1 + 2 + 4 + 8 + 13 + 16 + 26 + 32 + 52 + 64 + 104 + 128 + 208 + 256 + 416 + 512 + 832 + 1664 + 3328 + 6656 = 14322
ตัวประกอบของ 6656 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6656 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6656 = 29 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6656 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6656 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6656 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3328
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6656
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6656 แบบที่หนึ่ง
  • 6656
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 104
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6656 แบบที่สอง
  • 6656
    • 2
    • 3328
      • 2
      • 1664
        • 2
        • 832
          • 2
          • 416
            • 2
            • 208
              • 2
              • 104
                • 2
                • 52
                  • 2
                  • 26
                    • 2
                    • 13
ดังนั้น 6656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6656 = 29 x 13 หรือ 29 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 6656 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6656 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6656 นั้นก็คือ 2, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6656

2
)6656
2
)3328
2
)1664
2
)832
2
)416
2
)208
2
)104
2
)52
2
)26
13
)13
1
ดังนั้น 6656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6656 = 29 x 13 หรือ 29 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6656

1แยกตัวประกอบของ 6656 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 29 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 9 ให้เอา 9 + 1 = 10
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 10 x 2 = 20
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6656 มีทั้งหมด 20 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6656 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇