ตัวประกอบของ 6665 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6665
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6665 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6665 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6665 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6665 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6665 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 31, 43, 155, 215, 1333, 6665
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6665 ÷ 1 | = | 6665 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 5 | = | 1333 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 31 | = | 215 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 43 | = | 155 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 155 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 215 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 1333 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 6665 ÷ 6665 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6665
| 1 x 6665 | = | 6665 |
| 5 x 1333 | = | 6665 |
| 31 x 215 | = | 6665 |
| 43 x 155 | = | 6665 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6665
1 + 5 + 31 + 43 + 155 + 215 + 1333 + 6665 = 8448
▶ ตัวประกอบของ 6665 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 31, 43
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6665 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6665 = 5 x 31 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6665 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6665 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6665 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1333
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6665
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6665 แบบที่หนึ่ง
- 6665
- 43
- 155
- 5
- 31
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6665 แบบที่สอง
- 6665
- 5
- 1333
- 31
- 43
ดังนั้น 6665 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6665 =
5 x 31 x 43
2. การแยกตัวประกอบของ 6665 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6665 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6665 นั้นก็คือ 5, 31, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6665
5)666531)133343)431ดังนั้น 6665 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6665 = 5 x 31 x 43วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6665
1แยกตัวประกอบของ 6665 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 311 x 4312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6665 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6665 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6665 นั้นก็คือ 5, 31, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6665
5
)6665
31
)1333
43
)43
1
ดังนั้น 6665 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6665 = 5 x 31 x 43
1แยกตัวประกอบของ 6665 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 311 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6665 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6665 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇