ตัวประกอบของ 6550 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6550
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6550 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6550 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6550 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6550 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6550 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 131, 262, 655, 1310, 3275, 6550
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6550 ÷ 1 | = | 6550 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 2 | = | 3275 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 5 | = | 1310 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 10 | = | 655 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 25 | = | 262 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 50 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 131 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 262 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 655 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 1310 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 3275 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6550 ÷ 6550 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6550
| 1 x 6550 | = | 6550 |
| 2 x 3275 | = | 6550 |
| 5 x 1310 | = | 6550 |
| 10 x 655 | = | 6550 |
| 25 x 262 | = | 6550 |
| 50 x 131 | = | 6550 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6550
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 131 + 262 + 655 + 1310 + 3275 + 6550 = 12276
▶ ตัวประกอบของ 6550 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6550 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6550 = 2 x 5 x 5 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6550 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6550 = 2 x 52 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6550 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6550 = 2 x 52 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6550 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6550 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6550 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3275
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6550
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6550 แบบที่หนึ่ง
- 6550
- 50
- 5
- 10
- 2
- 5
- 131
- 50
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6550 แบบที่สอง
- 6550
- 2
- 3275
- 5
- 655
- 5
- 131
ดังนั้น 6550 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6550 =
2 x 5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6550 =
2 x 52 x 131 หรือ 21 x 52 x 1311
2. การแยกตัวประกอบของ 6550 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6550 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6550 นั้นก็คือ 2, 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6550
2)65505)32755)655131)1311ดังนั้น 6550 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6550 = 2 x 5 x 5 x 131หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง6550 = 2 x 52 x 131 หรือ 21 x 52 x 1311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6550
1แยกตัวประกอบของ 6550 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6550 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6550 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6550 นั้นก็คือ 2, 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6550
2
)6550
5
)3275
5
)655
131
)131
1
ดังนั้น 6550 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6550 = 2 x 5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6550 = 2 x 52 x 131 หรือ 21 x 52 x 1311
1แยกตัวประกอบของ 6550 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6550 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6550 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇