ตัวประกอบของ 6302 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6302
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6302 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6302 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6302 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6302 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6302 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 137, 274, 3151, 6302
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6302 ÷ 1 | = | 6302 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 2 | = | 3151 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 23 | = | 274 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 46 | = | 137 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 137 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 274 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 3151 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6302 ÷ 6302 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6302
| 1 x 6302 | = | 6302 |
| 2 x 3151 | = | 6302 |
| 23 x 274 | = | 6302 |
| 46 x 137 | = | 6302 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6302
1 + 2 + 23 + 46 + 137 + 274 + 3151 + 6302 = 9936
▶ ตัวประกอบของ 6302 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 137
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6302 = 2 x 23 x 137
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6302 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6302 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6302 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3151
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6302
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6302 แบบที่หนึ่ง
- 6302
- 46
- 2
- 23
- 137
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6302 แบบที่สอง
- 6302
- 2
- 3151
- 23
- 137
ดังนั้น 6302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6302 =
2 x 23 x 137
2. การแยกตัวประกอบของ 6302 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6302 นั้นก็คือ 2, 23, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6302
2)630223)3151137)1371ดังนั้น 6302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6302 = 2 x 23 x 137วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6302
1แยกตัวประกอบของ 6302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 13712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6302 นั้นก็คือ 2, 23, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6302
2
)6302
23
)3151
137
)137
1
ดังนั้น 6302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6302 = 2 x 23 x 137
1แยกตัวประกอบของ 6302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 1371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6302 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇