โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6232 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6232

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6232 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6232 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 19, 38, 41, 76, 82, 152, 164, 328, 779, 1558, 3116, 6232
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6232 ÷ 1=6232เหลือเศษ 0
6232 ÷ 2=3116เหลือเศษ 0
6232 ÷ 4=1558เหลือเศษ 0
6232 ÷ 8=779เหลือเศษ 0
6232 ÷ 19=328เหลือเศษ 0
6232 ÷ 38=164เหลือเศษ 0
6232 ÷ 41=152เหลือเศษ 0
6232 ÷ 76=82เหลือเศษ 0
6232 ÷ 82=76เหลือเศษ 0
6232 ÷ 152=41เหลือเศษ 0
6232 ÷ 164=38เหลือเศษ 0
6232 ÷ 328=19เหลือเศษ 0
6232 ÷ 779=8เหลือเศษ 0
6232 ÷ 1558=4เหลือเศษ 0
6232 ÷ 3116=2เหลือเศษ 0
6232 ÷ 6232=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6232
1 x 6232
2 x 3116
4 x 1558
8 x 779
19 x 328
38 x 164
41 x 152
76 x 82
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6232
1 + 2 + 4 + 8 + 19 + 38 + 41 + 76 + 82 + 152 + 164 + 328 + 779 + 1558 + 3116 + 6232 = 12600
ตัวประกอบของ 6232 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 41
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6232 = 2 x 2 x 2 x 19 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6232 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6232 = 23 x 19 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6232 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6232 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6232 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3116
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6232
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6232 แบบที่หนึ่ง
  • 6232
    • 76
      • 4
        • 2
        • 2
      • 19
    • 82
      • 2
      • 41

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6232 แบบที่สอง
  • 6232
    • 2
    • 3116
      • 2
      • 1558
        • 2
        • 779
          • 19
          • 41
ดังนั้น 6232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6232 = 2 x 2 x 2 x 19 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6232 = 23 x 19 x 41 หรือ 23 x 191 x 411

2. การแยกตัวประกอบของ 6232 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6232 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6232 นั้นก็คือ 2, 19, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6232

2
)6232
2
)3116
2
)1558
19
)779
41
)41
1
ดังนั้น 6232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6232 = 2 x 2 x 2 x 19 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6232 = 23 x 19 x 41 หรือ 23 x 191 x 411

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6232

1แยกตัวประกอบของ 6232 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 191 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6232 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6232 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇