ตัวประกอบของ 6202 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6202
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6202 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6202 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6202 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6202 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6202 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 443, 886, 3101, 6202
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6202 ÷ 1 | = | 6202 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 2 | = | 3101 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 7 | = | 886 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 14 | = | 443 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 443 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 886 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 3101 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6202 ÷ 6202 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6202
| 1 x 6202 | = | 6202 |
| 2 x 3101 | = | 6202 |
| 7 x 886 | = | 6202 |
| 14 x 443 | = | 6202 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6202
1 + 2 + 7 + 14 + 443 + 886 + 3101 + 6202 = 10656
▶ ตัวประกอบของ 6202 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 443
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6202 = 2 x 7 x 443
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6202 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6202 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6202 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3101
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6202
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6202 แบบที่หนึ่ง
- 6202
- 14
- 2
- 7
- 443
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6202 แบบที่สอง
- 6202
- 2
- 3101
- 7
- 443
ดังนั้น 6202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6202 =
2 x 7 x 443
2. การแยกตัวประกอบของ 6202 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6202 นั้นก็คือ 2, 7, 443 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6202
2)62027)3101443)4431ดังนั้น 6202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6202 = 2 x 7 x 443วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6202
1แยกตัวประกอบของ 6202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 44312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 443 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6202 นั้นก็คือ 2, 7, 443 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6202
2
)6202
7
)3101
443
)443
1
ดังนั้น 6202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6202 = 2 x 7 x 443
1แยกตัวประกอบของ 6202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 4431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 443 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6202 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6202 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇