ตัวประกอบของ 6157 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6157
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6157 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6157 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 6157 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6157 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6157 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 47, 131, 6157
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6157 ÷ 1 | = | 6157 | เหลือเศษ 0 |
| 6157 ÷ 47 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
| 6157 ÷ 131 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
| 6157 ÷ 6157 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6157
| 1 x 6157 | = | 6157 |
| 47 x 131 | = | 6157 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6157
1 + 47 + 131 + 6157 = 6336
▶ ตัวประกอบของ 6157 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
47, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6157 = 47 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6157 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6157 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6157 มา 1 คู่ เช่น 47 x 131
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6157
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6157
- 6157
- 47
- 131
ดังนั้น 6157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6157 =
47 x 131
2. การแยกตัวประกอบของ 6157 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6157 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6157 นั้นก็คือ 47, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6157
47)6157131)1311ดังนั้น 6157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6157 = 47 x 131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6157
1แยกตัวประกอบของ 6157 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 471 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6157 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6157 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6157 นั้นก็คือ 47, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6157
47
)6157
131
)131
1
ดังนั้น 6157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6157 = 47 x 131
1แยกตัวประกอบของ 6157 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 471 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6157 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6157 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇