โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5886 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5886

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5886 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5886 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 109, 218, 327, 654, 981, 1962, 2943, 5886
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5886 ÷ 1=5886เหลือเศษ 0
5886 ÷ 2=2943เหลือเศษ 0
5886 ÷ 3=1962เหลือเศษ 0
5886 ÷ 6=981เหลือเศษ 0
5886 ÷ 9=654เหลือเศษ 0
5886 ÷ 18=327เหลือเศษ 0
5886 ÷ 27=218เหลือเศษ 0
5886 ÷ 54=109เหลือเศษ 0
5886 ÷ 109=54เหลือเศษ 0
5886 ÷ 218=27เหลือเศษ 0
5886 ÷ 327=18เหลือเศษ 0
5886 ÷ 654=9เหลือเศษ 0
5886 ÷ 981=6เหลือเศษ 0
5886 ÷ 1962=3เหลือเศษ 0
5886 ÷ 2943=2เหลือเศษ 0
5886 ÷ 5886=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5886
1 x 5886
2 x 2943
3 x 1962
6 x 981
9 x 654
18 x 327
27 x 218
54 x 109
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5886
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 109 + 218 + 327 + 654 + 981 + 1962 + 2943 + 5886 = 13200
ตัวประกอบของ 5886 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 109
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5886 = 2 x 3 x 3 x 3 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5886 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5886 = 2 x 33 x 109
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5886 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5886 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5886 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2943
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5886
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5886 แบบที่หนึ่ง
  • 5886
    • 54
      • 6
        • 2
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 109

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5886 แบบที่สอง
  • 5886
    • 2
    • 2943
      • 3
      • 981
        • 3
        • 327
          • 3
          • 109
ดังนั้น 5886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5886 = 2 x 3 x 3 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5886 = 2 x 33 x 109 หรือ 21 x 33 x 1091

2. การแยกตัวประกอบของ 5886 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5886 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5886 นั้นก็คือ 2, 3, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5886

2
)5886
3
)2943
3
)981
3
)327
109
)109
1
ดังนั้น 5886 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5886 = 2 x 3 x 3 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5886 = 2 x 33 x 109 หรือ 21 x 33 x 1091

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5886

1แยกตัวประกอบของ 5886 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 1091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5886 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5886 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇