ตัวประกอบของ 5863 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5863
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5863 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5863 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5863 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5863 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5863 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 13, 41, 143, 451, 533, 5863
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5863 ÷ 1 | = | 5863 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 11 | = | 533 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 13 | = | 451 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 41 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 143 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 451 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 533 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
5863 ÷ 5863 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5863
1 x 5863 | = | 5863 |
11 x 533 | = | 5863 |
13 x 451 | = | 5863 |
41 x 143 | = | 5863 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5863
1 + 11 + 13 + 41 + 143 + 451 + 533 + 5863 = 7056
▶ ตัวประกอบของ 5863 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 13, 41
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5863 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5863 = 11 x 13 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5863 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5863 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5863 มา 1 คู่ เช่น 11 x 533
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5863
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5863 แบบที่หนึ่ง
- 5863
- 41
- 143
- 11
- 13
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5863 แบบที่สอง
- 5863
- 11
- 533
- 13
- 41
ดังนั้น 5863 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5863 =
11 x 13 x 41
2. การแยกตัวประกอบของ 5863 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5863 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5863 นั้นก็คือ 11, 13, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5863
11)586313)53341)411ดังนั้น 5863 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5863 = 11 x 13 x 41วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5863
1แยกตัวประกอบของ 5863 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 4112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5863 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5863 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5863 นั้นก็คือ 11, 13, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5863
11
)5863
13
)533
41
)41
1
ดังนั้น 5863 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5863 = 11 x 13 x 41
1แยกตัวประกอบของ 5863 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5863 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5863 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇