โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5553 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5553

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5553 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5553 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 617, 1851, 5553
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5553 ÷ 1=5553เหลือเศษ 0
5553 ÷ 3=1851เหลือเศษ 0
5553 ÷ 9=617เหลือเศษ 0
5553 ÷ 617=9เหลือเศษ 0
5553 ÷ 1851=3เหลือเศษ 0
5553 ÷ 5553=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5553
1 x 5553
3 x 1851
9 x 617
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5553
1 + 3 + 9 + 617 + 1851 + 5553 = 8034
ตัวประกอบของ 5553 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 617
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5553 = 3 x 3 x 617
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5553 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5553 = 32 x 617
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5553 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5553 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5553 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1851
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5553
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5553 แบบที่หนึ่ง
  • 5553
    • 9
      • 3
      • 3
    • 617

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5553 แบบที่สอง
  • 5553
    • 3
    • 1851
      • 3
      • 617
ดังนั้น 5553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5553 = 3 x 3 x 617
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5553 = 32 x 617 หรือ 32 x 6171

2. การแยกตัวประกอบของ 5553 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5553 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5553 นั้นก็คือ 3, 617 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5553

3
)5553
3
)1851
617
)617
1
ดังนั้น 5553 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5553 = 3 x 3 x 617
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5553 = 32 x 617 หรือ 32 x 6171

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5553

1แยกตัวประกอบของ 5553 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 6171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 617 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5553 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5553 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇