ตัวประกอบของ 5154 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5154
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5154 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5154 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5154 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5154 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5154 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 859, 1718, 2577, 5154
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5154 ÷ 1 | = | 5154 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 2 | = | 2577 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 3 | = | 1718 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 6 | = | 859 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 859 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 1718 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 2577 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5154 ÷ 5154 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5154
1 x 5154 | = | 5154 |
2 x 2577 | = | 5154 |
3 x 1718 | = | 5154 |
6 x 859 | = | 5154 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5154
1 + 2 + 3 + 6 + 859 + 1718 + 2577 + 5154 = 10320
▶ ตัวประกอบของ 5154 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 859
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5154 = 2 x 3 x 859
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5154 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5154 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5154 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2577
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5154
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5154 แบบที่หนึ่ง
- 5154
- 6
- 2
- 3
- 859
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5154 แบบที่สอง
- 5154
- 2
- 2577
- 3
- 859
ดังนั้น 5154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5154 =
2 x 3 x 859
2. การแยกตัวประกอบของ 5154 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5154 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5154 นั้นก็คือ 2, 3, 859 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5154
2)51543)2577859)8591ดังนั้น 5154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5154 = 2 x 3 x 859วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5154
1แยกตัวประกอบของ 5154 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 85912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 859 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5154 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5154 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5154 นั้นก็คือ 2, 3, 859 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5154
2
)5154
3
)2577
859
)859
1
ดังนั้น 5154 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5154 = 2 x 3 x 859
1แยกตัวประกอบของ 5154 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 8591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 859 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5154 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5154 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇