ตัวประกอบของ 4716 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4716
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4716 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4716 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4716 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4716 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4716 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 9, 12, 18, 36, 131, 262, 393, 524, 786, 1179, 1572, 2358, 4716
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4716 ÷ 1 | = | 4716 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 2 | = | 2358 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 3 | = | 1572 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 4 | = | 1179 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 6 | = | 786 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 9 | = | 524 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 12 | = | 393 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 18 | = | 262 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 36 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 131 | = | 36 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 262 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 393 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 524 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 786 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 1179 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 1572 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 2358 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4716 ÷ 4716 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4716
| 1 x 4716 | = | 4716 |
| 2 x 2358 | = | 4716 |
| 3 x 1572 | = | 4716 |
| 4 x 1179 | = | 4716 |
| 6 x 786 | = | 4716 |
| 9 x 524 | = | 4716 |
| 12 x 393 | = | 4716 |
| 18 x 262 | = | 4716 |
| 36 x 131 | = | 4716 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4716
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 9 + 12 + 18 + 36 + 131 + 262 + 393 + 524 + 786 + 1179 + 1572 + 2358 + 4716 = 12012
▶ ตัวประกอบของ 4716 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4716 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4716 = 2 x 2 x 3 x 3 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4716 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4716 = 22 x 32 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4716 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4716 = 22 x 32 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4716 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4716 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4716 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2358
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4716
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4716 แบบที่หนึ่ง
- 4716
- 36
- 6
- 2
- 3
- 6
- 2
- 3
- 6
- 131
- 36
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4716 แบบที่สอง
- 4716
- 2
- 2358
- 2
- 1179
- 3
- 393
- 3
- 131
ดังนั้น 4716 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4716 =
2 x 2 x 3 x 3 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4716 =
22 x 32 x 131 หรือ 22 x 32 x 1311
2. การแยกตัวประกอบของ 4716 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4716 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4716 นั้นก็คือ 2, 3, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4716
2)47162)23583)11793)393131)1311ดังนั้น 4716 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4716 = 2 x 2 x 3 x 3 x 131หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง4716 = 22 x 32 x 131 หรือ 22 x 32 x 1311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4716
1แยกตัวประกอบของ 4716 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 32 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4716 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4716 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4716 นั้นก็คือ 2, 3, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4716
2
)4716
2
)2358
3
)1179
3
)393
131
)131
1
ดังนั้น 4716 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4716 = 2 x 2 x 3 x 3 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4716 = 22 x 32 x 131 หรือ 22 x 32 x 1311
1แยกตัวประกอบของ 4716 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 32 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4716 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4716 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
