ตัวประกอบของ 3357 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3357
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3357 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3357 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3357 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3357 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3357 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 373, 1119, 3357
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3357 ÷ 1 | = | 3357 | เหลือเศษ 0 |
3357 ÷ 3 | = | 1119 | เหลือเศษ 0 |
3357 ÷ 9 | = | 373 | เหลือเศษ 0 |
3357 ÷ 373 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
3357 ÷ 1119 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
3357 ÷ 3357 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3357
1 x 3357 | = | 3357 |
3 x 1119 | = | 3357 |
9 x 373 | = | 3357 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3357
1 + 3 + 9 + 373 + 1119 + 3357 = 4862
▶ ตัวประกอบของ 3357 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 373
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3357 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3357 = 3 x 3 x 373
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3357 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3357 = 32 x 373
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3357 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3357 = 32 x 373
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3357 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3357 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3357 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1119
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3357
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3357 แบบที่หนึ่ง
- 3357
- 9
- 3
- 3
- 373
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3357 แบบที่สอง
- 3357
- 3
- 1119
- 3
- 373
ดังนั้น 3357 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3357 =
3 x 3 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3357 =
32 x 373 หรือ 32 x 3731
2. การแยกตัวประกอบของ 3357 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3357 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3357 นั้นก็คือ 3, 373 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3357
3)33573)1119373)3731ดังนั้น 3357 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3357 = 3 x 3 x 373หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3357 = 32 x 373 หรือ 32 x 3731วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3357
1แยกตัวประกอบของ 3357 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 37312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 373 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3357 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3357 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3357 นั้นก็คือ 3, 373 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3357
3
)3357
3
)1119
373
)373
1
ดังนั้น 3357 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3357 = 3 x 3 x 373
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3357 = 32 x 373 หรือ 32 x 3731
1แยกตัวประกอบของ 3357 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 3731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 373 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3357 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3357 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇