ตัวประกอบของ 3356 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3356
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3356 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3356 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3356 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3356 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3356 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 839, 1678, 3356
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3356 ÷ 1 | = | 3356 | เหลือเศษ 0 |
3356 ÷ 2 | = | 1678 | เหลือเศษ 0 |
3356 ÷ 4 | = | 839 | เหลือเศษ 0 |
3356 ÷ 839 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
3356 ÷ 1678 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
3356 ÷ 3356 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3356
1 x 3356 | = | 3356 |
2 x 1678 | = | 3356 |
4 x 839 | = | 3356 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3356
1 + 2 + 4 + 839 + 1678 + 3356 = 5880
▶ ตัวประกอบของ 3356 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 839
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3356 = 2 x 2 x 839
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3356 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3356 = 22 x 839
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3356 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3356 = 22 x 839
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3356 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3356 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3356 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1678
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3356
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3356 แบบที่หนึ่ง
- 3356
- 4
- 2
- 2
- 839
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3356 แบบที่สอง
- 3356
- 2
- 1678
- 2
- 839
ดังนั้น 3356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3356 =
2 x 2 x 839
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3356 =
22 x 839 หรือ 22 x 8391
2. การแยกตัวประกอบของ 3356 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3356 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3356 นั้นก็คือ 2, 839 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3356
2)33562)1678839)8391ดังนั้น 3356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3356 = 2 x 2 x 839หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3356 = 22 x 839 หรือ 22 x 8391วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3356
1แยกตัวประกอบของ 3356 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 83912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 839 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3356 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3356 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3356 นั้นก็คือ 2, 839 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3356
2
)3356
2
)1678
839
)839
1
ดังนั้น 3356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3356 = 2 x 2 x 839
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3356 = 22 x 839 หรือ 22 x 8391
1แยกตัวประกอบของ 3356 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 8391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 839 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3356 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3356 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇