ตัวประกอบของ 3275 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3275
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3275 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3275 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3275 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3275 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3275 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 131, 655, 3275
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3275 ÷ 1 | = | 3275 | เหลือเศษ 0 |
3275 ÷ 5 | = | 655 | เหลือเศษ 0 |
3275 ÷ 25 | = | 131 | เหลือเศษ 0 |
3275 ÷ 131 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
3275 ÷ 655 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
3275 ÷ 3275 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3275
1 x 3275 | = | 3275 |
5 x 655 | = | 3275 |
25 x 131 | = | 3275 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3275
1 + 5 + 25 + 131 + 655 + 3275 = 4092
▶ ตัวประกอบของ 3275 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 131
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3275 = 5 x 5 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3275 = 52 x 131
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3275 = 52 x 131
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3275 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3275 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3275 มา 1 คู่ เช่น 5 x 655
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3275
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3275 แบบที่หนึ่ง
- 3275
- 25
- 5
- 5
- 131
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3275 แบบที่สอง
- 3275
- 5
- 655
- 5
- 131
ดังนั้น 3275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3275 =
5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3275 =
52 x 131 หรือ 52 x 1311
2. การแยกตัวประกอบของ 3275 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3275 นั้นก็คือ 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3275
5)32755)655131)1311ดังนั้น 3275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3275 = 5 x 5 x 131หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง3275 = 52 x 131 หรือ 52 x 1311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3275
1แยกตัวประกอบของ 3275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 13112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3275 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3275 นั้นก็คือ 5, 131 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3275
5
)3275
5
)655
131
)131
1
ดังนั้น 3275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3275 = 5 x 5 x 131
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3275 = 52 x 131 หรือ 52 x 1311
1แยกตัวประกอบของ 3275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 1311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 131 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3275 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3275 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇