ตัวประกอบของ 26446 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26446
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26446 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26446 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26446 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26446 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26446 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 1889, 3778, 13223, 26446
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26446 ÷ 1 | = | 26446 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 2 | = | 13223 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 7 | = | 3778 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 14 | = | 1889 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 1889 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 3778 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 13223 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26446 ÷ 26446 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26446
| 1 x 26446 | = | 26446 |
| 2 x 13223 | = | 26446 |
| 7 x 3778 | = | 26446 |
| 14 x 1889 | = | 26446 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26446
1 + 2 + 7 + 14 + 1889 + 3778 + 13223 + 26446 = 45360
▶ ตัวประกอบของ 26446 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1889
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26446 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26446 = 2 x 7 x 1889
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26446 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26446 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26446 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13223
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26446
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26446 แบบที่หนึ่ง
- 26446
- 14
- 2
- 7
- 1889
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26446 แบบที่สอง
- 26446
- 2
- 13223
- 7
- 1889
ดังนั้น 26446 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26446 =
2 x 7 x 1889
2. การแยกตัวประกอบของ 26446 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26446 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26446 นั้นก็คือ 2, 7, 1889 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26446
2)264467)132231889)18891ดังนั้น 26446 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26446 = 2 x 7 x 1889วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26446
1แยกตัวประกอบของ 26446 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 188912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1889 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26446 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26446 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26446 นั้นก็คือ 2, 7, 1889 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26446
2
)26446
7
)13223
1889
)1889
1
ดังนั้น 26446 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26446 = 2 x 7 x 1889
1แยกตัวประกอบของ 26446 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 18891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1889 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26446 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26446 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
