ตัวประกอบของ 26337 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26337
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26337 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26337 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26337 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26337 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26337 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 8779, 26337
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26337 ÷ 1 | = | 26337 | เหลือเศษ 0 |
| 26337 ÷ 3 | = | 8779 | เหลือเศษ 0 |
| 26337 ÷ 8779 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26337 ÷ 26337 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26337
| 1 x 26337 | = | 26337 |
| 3 x 8779 | = | 26337 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26337
1 + 3 + 8779 + 26337 = 35120
▶ ตัวประกอบของ 26337 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 8779
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26337 = 3 x 8779
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26337 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26337 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26337 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8779
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26337
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26337
- 26337
- 3
- 8779
ดังนั้น 26337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26337 =
3 x 8779
2. การแยกตัวประกอบของ 26337 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26337 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26337 นั้นก็คือ 3, 8779 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26337
3)263378779)87791ดังนั้น 26337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26337 = 3 x 8779วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26337
1แยกตัวประกอบของ 26337 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 877912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8779 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26337 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26337 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26337 นั้นก็คือ 3, 8779 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26337
3
)26337
8779
)8779
1
ดังนั้น 26337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26337 = 3 x 8779
1แยกตัวประกอบของ 26337 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 87791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8779 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26337 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26337 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇