ตัวประกอบของ 26333 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26333
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26333 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26333 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26333 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26333 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26333 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 17, 1549, 26333
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26333 ÷ 1 | = | 26333 | เหลือเศษ 0 |
| 26333 ÷ 17 | = | 1549 | เหลือเศษ 0 |
| 26333 ÷ 1549 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 26333 ÷ 26333 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26333
| 1 x 26333 | = | 26333 |
| 17 x 1549 | = | 26333 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26333
1 + 17 + 1549 + 26333 = 27900
▶ ตัวประกอบของ 26333 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
17, 1549
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26333 = 17 x 1549
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26333 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26333 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26333 มา 1 คู่ เช่น 17 x 1549
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26333
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26333
- 26333
- 17
- 1549
ดังนั้น 26333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26333 =
17 x 1549
2. การแยกตัวประกอบของ 26333 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26333 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26333 นั้นก็คือ 17, 1549 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26333
17)263331549)15491ดังนั้น 26333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26333 = 17 x 1549วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26333
1แยกตัวประกอบของ 26333 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 154912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1549 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26333 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26333 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26333 นั้นก็คือ 17, 1549 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26333
17
)26333
1549
)1549
1
ดังนั้น 26333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26333 = 17 x 1549
1แยกตัวประกอบของ 26333 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 15491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1549 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26333 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26333 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇