โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26088 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26088

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26088 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26088 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 1087, 2174, 3261, 4348, 6522, 8696, 13044, 26088
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26088 ÷ 1=26088เหลือเศษ 0
26088 ÷ 2=13044เหลือเศษ 0
26088 ÷ 3=8696เหลือเศษ 0
26088 ÷ 4=6522เหลือเศษ 0
26088 ÷ 6=4348เหลือเศษ 0
26088 ÷ 8=3261เหลือเศษ 0
26088 ÷ 12=2174เหลือเศษ 0
26088 ÷ 24=1087เหลือเศษ 0
26088 ÷ 1087=24เหลือเศษ 0
26088 ÷ 2174=12เหลือเศษ 0
26088 ÷ 3261=8เหลือเศษ 0
26088 ÷ 4348=6เหลือเศษ 0
26088 ÷ 6522=4เหลือเศษ 0
26088 ÷ 8696=3เหลือเศษ 0
26088 ÷ 13044=2เหลือเศษ 0
26088 ÷ 26088=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26088
1 x 26088
2 x 13044
3 x 8696
4 x 6522
6 x 4348
8 x 3261
12 x 2174
24 x 1087
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26088
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 1087 + 2174 + 3261 + 4348 + 6522 + 8696 + 13044 + 26088 = 65280
ตัวประกอบของ 26088 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1087
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26088 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26088 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1087
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26088 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26088 = 23 x 3 x 1087
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26088 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26088 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26088 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13044
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26088
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26088 แบบที่หนึ่ง
  • 26088
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 1087

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26088 แบบที่สอง
  • 26088
    • 2
    • 13044
      • 2
      • 6522
        • 2
        • 3261
          • 3
          • 1087
ดังนั้น 26088 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26088 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1087
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26088 = 23 x 3 x 1087 หรือ 23 x 31 x 10871

2. การแยกตัวประกอบของ 26088 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26088 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26088 นั้นก็คือ 2, 3, 1087 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26088

2
)26088
2
)13044
2
)6522
3
)3261
1087
)1087
1
ดังนั้น 26088 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26088 = 2 x 2 x 2 x 3 x 1087
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26088 = 23 x 3 x 1087 หรือ 23 x 31 x 10871

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26088

1แยกตัวประกอบของ 26088 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 10871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1087 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26088 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26088 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇