โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 2568 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2568

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 2568 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 2568 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 107, 214, 321, 428, 642, 856, 1284, 2568
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2568 ÷ 1=2568เหลือเศษ 0
2568 ÷ 2=1284เหลือเศษ 0
2568 ÷ 3=856เหลือเศษ 0
2568 ÷ 4=642เหลือเศษ 0
2568 ÷ 6=428เหลือเศษ 0
2568 ÷ 8=321เหลือเศษ 0
2568 ÷ 12=214เหลือเศษ 0
2568 ÷ 24=107เหลือเศษ 0
2568 ÷ 107=24เหลือเศษ 0
2568 ÷ 214=12เหลือเศษ 0
2568 ÷ 321=8เหลือเศษ 0
2568 ÷ 428=6เหลือเศษ 0
2568 ÷ 642=4เหลือเศษ 0
2568 ÷ 856=3เหลือเศษ 0
2568 ÷ 1284=2เหลือเศษ 0
2568 ÷ 2568=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2568
1 x 2568
2 x 1284
3 x 856
4 x 642
6 x 428
8 x 321
12 x 214
24 x 107
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2568
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 107 + 214 + 321 + 428 + 642 + 856 + 1284 + 2568 = 6480
ตัวประกอบของ 2568 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 107
การแยกตัวประกอบคืออะไร

2568 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

2568 = 2 x 2 x 2 x 3 x 107
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2568 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2568 = 23 x 3 x 107
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 2568 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2568 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2568 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1284
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2568
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2568 แบบที่หนึ่ง
  • 2568
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 107

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2568 แบบที่สอง
  • 2568
    • 2
    • 1284
      • 2
      • 642
        • 2
        • 321
          • 3
          • 107
ดังนั้น 2568 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2568 = 2 x 2 x 2 x 3 x 107
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2568 = 23 x 3 x 107 หรือ 23 x 31 x 1071

2. การแยกตัวประกอบของ 2568 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 2568 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2568 นั้นก็คือ 2, 3, 107 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2568

2
)2568
2
)1284
2
)642
3
)321
107
)107
1
ดังนั้น 2568 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2568 = 2 x 2 x 2 x 3 x 107
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2568 = 23 x 3 x 107 หรือ 23 x 31 x 1071

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2568

1แยกตัวประกอบของ 2568 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 1071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2568 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2568 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇