โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25408 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25408

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25408 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25408 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 397, 794, 1588, 3176, 6352, 12704, 25408
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25408 ÷ 1=25408เหลือเศษ 0
25408 ÷ 2=12704เหลือเศษ 0
25408 ÷ 4=6352เหลือเศษ 0
25408 ÷ 8=3176เหลือเศษ 0
25408 ÷ 16=1588เหลือเศษ 0
25408 ÷ 32=794เหลือเศษ 0
25408 ÷ 64=397เหลือเศษ 0
25408 ÷ 397=64เหลือเศษ 0
25408 ÷ 794=32เหลือเศษ 0
25408 ÷ 1588=16เหลือเศษ 0
25408 ÷ 3176=8เหลือเศษ 0
25408 ÷ 6352=4เหลือเศษ 0
25408 ÷ 12704=2เหลือเศษ 0
25408 ÷ 25408=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25408
1 x 25408
2 x 12704
4 x 6352
8 x 3176
16 x 1588
32 x 794
64 x 397
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25408
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 397 + 794 + 1588 + 3176 + 6352 + 12704 + 25408 = 50546
ตัวประกอบของ 25408 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 397
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25408 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 397
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25408 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25408 = 26 x 397
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25408 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25408 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25408 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12704
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25408
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25408 แบบที่หนึ่ง
  • 25408
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 397

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25408 แบบที่สอง
  • 25408
    • 2
    • 12704
      • 2
      • 6352
        • 2
        • 3176
          • 2
          • 1588
            • 2
            • 794
              • 2
              • 397
ดังนั้น 25408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25408 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 397
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25408 = 26 x 397 หรือ 26 x 3971

2. การแยกตัวประกอบของ 25408 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25408 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25408 นั้นก็คือ 2, 397 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25408

2
)25408
2
)12704
2
)6352
2
)3176
2
)1588
2
)794
397
)397
1
ดังนั้น 25408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25408 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 397
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25408 = 26 x 397 หรือ 26 x 3971

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25408

1แยกตัวประกอบของ 25408 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 3971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 397 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25408 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25408 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇