โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25384 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25384

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25384 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25384 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 19, 38, 76, 152, 167, 334, 668, 1336, 3173, 6346, 12692, 25384
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25384 ÷ 1=25384เหลือเศษ 0
25384 ÷ 2=12692เหลือเศษ 0
25384 ÷ 4=6346เหลือเศษ 0
25384 ÷ 8=3173เหลือเศษ 0
25384 ÷ 19=1336เหลือเศษ 0
25384 ÷ 38=668เหลือเศษ 0
25384 ÷ 76=334เหลือเศษ 0
25384 ÷ 152=167เหลือเศษ 0
25384 ÷ 167=152เหลือเศษ 0
25384 ÷ 334=76เหลือเศษ 0
25384 ÷ 668=38เหลือเศษ 0
25384 ÷ 1336=19เหลือเศษ 0
25384 ÷ 3173=8เหลือเศษ 0
25384 ÷ 6346=4เหลือเศษ 0
25384 ÷ 12692=2เหลือเศษ 0
25384 ÷ 25384=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25384
1 x 25384
2 x 12692
4 x 6346
8 x 3173
19 x 1336
38 x 668
76 x 334
152 x 167
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25384
1 + 2 + 4 + 8 + 19 + 38 + 76 + 152 + 167 + 334 + 668 + 1336 + 3173 + 6346 + 12692 + 25384 = 50400
ตัวประกอบของ 25384 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 167
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25384 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25384 = 2 x 2 x 2 x 19 x 167
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25384 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25384 = 23 x 19 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25384 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25384 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25384 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12692
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25384
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25384 แบบที่หนึ่ง
  • 25384
    • 152
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 19
    • 167

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25384 แบบที่สอง
  • 25384
    • 2
    • 12692
      • 2
      • 6346
        • 2
        • 3173
          • 19
          • 167
ดังนั้น 25384 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25384 = 2 x 2 x 2 x 19 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25384 = 23 x 19 x 167 หรือ 23 x 191 x 1671

2. การแยกตัวประกอบของ 25384 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25384 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25384 นั้นก็คือ 2, 19, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25384

2
)25384
2
)12692
2
)6346
19
)3173
167
)167
1
ดังนั้น 25384 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25384 = 2 x 2 x 2 x 19 x 167
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25384 = 23 x 19 x 167 หรือ 23 x 191 x 1671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25384

1แยกตัวประกอบของ 25384 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 191 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25384 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25384 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇